ภาพรวมฤดูกาล ของ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2560

มกราคม

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

กุมภาพันธ์

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เริ่มลงแข่งขันไทยลีก ฤดูกาล 2560 นัดแรก ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ด้วยการเปิดบ้านเสมอกับชลบุรีที่สนามไอ-โมบาย 2–2[1] ต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์เก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลด้วยการบุกไปชนะราชนาวีที่สนามกีฬากองทัพเรือสัตหีบ 2–1[2] และต่อมาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" เก็บชัยชนะนัดแรกในบ้านด้วยการเอาชนะพัทยา ยูไนเต็ด 2–0[3]

มีนาคม

วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์บุกไปชนะไทยฮอนด้า ลาดกระบัง ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 5–1 จากการทำแฮตทริกของสุภโชค สารชาติ[4] ต่อมาในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" เปิดบ้านเก็บชัยชนะนัดที่สี่ติดต่อกัน ด้วยการเอาชนะนครราชสีมา มาสด้า 4–0[5] และต่อมาในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" บุกไปเสมอการท่าเรือที่แพตสเตเดียม 0–0 โดยจีโอกู ลูอิส ซังตู ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม[6] ทำให้บุรีรัมย์รั้งอยู่อันดับที่ 3 ก่อนที่จะเบรกให้โปรแกรมทีมชาติลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 3

เมษายน

"ปราสาทสายฟ้า" ประเดิมนัดแรกของเดือนเมษายน ด้วยการทำบิ๊กแมตช์เอาชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่าฤดูกาลที่แล้ว 2–0 เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560[7] ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์บุกไปเสมออุบล ยูเอ็มที ที่ยูเอ็มที สเตเดียม 1–1[8] ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" เปิดบ้านเอาชนะซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ 3–0[9] ต่อมาในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์บุกไปชนะเชียงราย ยูไนเต็ด อีกสโมสรหนึ่งที่กำลังแย่งจ่าฝูง ด้วยสกอร์ 2–1 ที่สิงห์ สเตเดียม[10] และในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" เปิดบ้านทำดาร์บีแมตช์อีสานใต้กับศรีสะเกษ และเอาชนะไปได้ 3–0[11]

พฤษภาคม

ในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์แพ้นัดแรกของฤดูกาลต่อบางกอกกล๊าส 1–2 ที่ลีโอสเตเดียม[12] ต่อมาวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์พ่ายแพ้คาบ้านนัดแรกของฤดูกาลต่อราชบุรี มิตรผล 3–4[13] นับเป็นการพ่ายแพ้สองนัดติด และคะแนนห่างจากเอสซีจี เมืองทอง ถึง 7 คะแนน ต่อมาในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์กลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง ด้วยการบุกไปชนะสุโขทัยที่สนามทุ่งทะเลหลวง 3–1 จากการทำแฮตทริกของจีโอกู ลูอิส ซังตู[14] ต่อมาในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสุพรรณบุรี 3–0[15]

ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" บุกไปเสมอบีอีซี เทโรศาสน ที่สนามกีฬาบุณยะจินดา 2–2[16] และในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" ส่งท้ายเลกแรก ด้วยการเปิดบ้านชนะแบงค็อก ยูไนเต็ด 2–1[17] จบเลกแรก บุรีรัมย์อยู่อันดับที่สองของตาราง แต่มีคะแนนเท่ากับเอสซีจี เมืองทอง

มิถุนายน

ในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560 รันกอ ปอปอวิช ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน[18] โดยมีโบซีดาร์ บันโดวิช เข้ารับตำแหน่งแทน[19]

"ปราสาทสายฟ้า" ประเดิมเลกที่สอง ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะราชนาวี 2–0 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2560[20] และขึ้นเป็นจ่าฝูงครั้งแรกของฤดูกาล ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์ประเดิมการแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย ด้วยการบุกชนะราชบุรี มิตรผล ที่มิตรผลสเตเดียม 1–0[21] ต่อมาวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์กลับมาแข่งขันในลีกต่อ และบุกไปชนะพัทยา ยูไนเต็ดที่สนามกีฬาหนองปรือ 2–0[22] และในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" เปิดบ้านเอาชนะไทยฮอนด้า ลาดกระบัง 2–0[23]

กรกฎาคม

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" บุกไปเอาชนะนครราชสีมา มาสด้า ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 2–0[24] ต่อมาในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์เปิดบ้านเฉือนการท่าเรือ 1–0[25] และเป็นการชนะในลีก 6 นัดติดต่อกัน และในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" บุกไปเสมอ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เอสซีจีสเตเดียม 1–1[26] ก่อนที่เบรกให้ทีมชาติลงแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ

ในวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" ประเดิมการแข่งขันโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์เก่าร่วม ด้วยการบุกเฉือนชัยนาท ฮอร์นบิลที่เขาพลองสเตเดียม 2–1[27] และในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์กลับมาแข่งขันในลีก และเปิดบ้านเอาชนะอุบล ยูเอ็มที ไปได้ 4–0 และยังเป็นแฮตทริกแรกของฌักซง อาเวลินู กูเอลญู[28]

สิงหาคม

วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ในการแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์เปิดบ้านพบกับพิษณุโลก ทีมจากไทยลีก 4 และเอาชนะไปได้ 5–1[29] ต่อมาวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์กลับมาแข่งขันในไทยลีก โดยบุกไปชนะซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ ที่กกท. บางพลี 7–0 โดยฌักซง อาเวลินู กูเอลญู ยิงไป 4 ประตู[30] ก่อนที่จะพักลีกให้ทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงแข่งขันในซีเกมส์ 2017 ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลาหนึ่งเดือน

กันยายน

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" กลับมาลงแข่งขันในไทยลีกอีกครั้ง โดยเปิดบ้านเฉือนชนะเชียงราย ยูไนเต็ด 1–0[31] ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์บุกไปชนะศรีสะเกษที่สนามศรีนครลำดวน 5–1 โดยฌักซง กูเอลญู ทำแฮตทริกได้อีกครั้ง[32] ต่อมาวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" เปิดบ้านเฉือนชนะบางกอกกล๊าส 1–0 โดยได้ประตูชัยปลดล็อกในนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลา[33] ต่อมาในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์บุกไปล้างตาราชบุรี มิตรผล ที่มิตรผลสเตเดียม โดยเอาชนะไปได้ 2–0[34] และในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2560 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย "ปราสาทสายฟ้า" บุกไปชนะบางกอกกล๊าสที่ลีโอสเตเดียม 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบถัดไปได้สำเร็จ[35]

ตุลาคม

วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ในการแข่งขันโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์บุกไปชนะชลบุรีที่ชลบุรีสเตเดียม ด้วยการยิงลูกโทษ 5–4 หลังจากเสมอ 1–1 ในเวลา 120 นาที[36] ต่อมาวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" ต้องยุติเส้นทางป้องกันแชมป์โตโยต้า ลีกคัพ ด้วยการแพ้ในบ้านต่อ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่าร่วม ด้วยสกอร์ 0–2[37]

ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์กลับมาแข่งขันในไทยลีก เปิดบ้านเอาชนะสุโขทัย 5–2 โดยฌักซง กูเอลญู ทำแฮตทริกได้อีกครั้ง[38] ต่อมาในวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" บุกไปแพ้ "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สิงห์ สเตเดียม 0–1 ในรายการช้าง เอฟเอคัพ[39] ทำให้ตกรอบฟุตบอลถ้วยทั้งสองรายการ และในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560 บุรีรัมย์บุกไปเฉือนชนะสุพรรณบุรีที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี 1–0 โดยได้ประตูจากการยิงลูกโทษของจีโอกู ลูอิส ซังตู ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ[40]

พฤศจิกายน

ในเดือนสุดท้ายของการแข่งขันไทยลีก ฤดูกาล 2560 บุรีรัมย์คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 5 ในนัดที่เปิดบ้านชนะบีอีซี เทโรศาสน 4–0 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 และมีพิธีมอบถ้วยรางวัลในคืนนั้น[41] ต่อมาในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 "ปราสาทสายฟ้า" บุกไปเอาชนะแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ รังสิต 3–1[42] และในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 นัดสุดท้ายของฤดูกาล "ปราสาทสายฟ้า" บุกชนะชลบุรีที่ชลบุรีสเตเดียม 2–1[43] จบฤดูกาลด้วยการมี 86 คะแนน นับเป็นคะแนนสูงสุดของประวัติศาสตร์ไทยลีก ทำลายสถิติเดิมเมื่อฤดูกาล 2554 ได้สำเร็จ

ใกล้เคียง

สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2563–2564 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2562 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2559 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2560 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2564–2565 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2561 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2565–2566 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2558

แหล่งที่มา

WikiPedia: สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2560 http://www.buriramunited.com http://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2... http://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2... http://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2... http://www.goal.com/th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2... http://www.goal.com/th/match/%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0... http://www.goal.com/th/match/%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0... http://www.goal.com/th/match/%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0... http://www.goal.com/th/match/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0... http://www.goal.com/th/match/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0...